แมนฯ ซิตี้โชว์พลัง! ฮาแลนด์–โดกู นำทัพถล่มลิเวอร์พูล 3-0 ไล่จี้จ่าฝูงอาร์เซน่อลเหลือ 4 แต้ม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งสัญญาณชัดเจนว่ายังไม่ยอมปล่อยมือจากเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังเปิดบ้านถล่มลิเวอร์พูล 3-0 ในเกมบิ๊กแมตช์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยได้ประตูจาก เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, นีโก้ กอนซาเลซ และ เยเรมี่ โดกู ที่โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงตลอดทั้งเกม
ก่อนลงสนาม ทั้งสองทีมต่างหวังเก็บชัยเพื่อฉวยโอกาสจากการที่อาร์เซน่อลสะดุดเสมอซันเดอร์แลนด์ แต่เป็น “เรือใบสีฟ้า” ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพเหนือกว่าอย่างชัดเจน พร้อมขยับช่องว่างเหลือเพียง 4 คะแนนจากจ่าฝูง
แม้ฮาแลนด์จะพลาดจุดโทษในนาทีที่ 13 จากจังหวะปัญหาที่เกิดขึ้นหลังโดกูถูกไอบราฮิมา โกนาเต้ สกัดในเขตโทษ แต่เจ้าบ้านก็ยังเดินหน้าบดขยี้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งดาวยิงนอร์เวย์มาแก้ตัวได้ในนาทีที่ 28 โหม่งย้อนเสียบเสาเข้าประตู เป็นประตูที่ 19 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
ช่วงทดเวลาครึ่งแรก ซิตี้หนีเป็น 2-0 เมื่อ นีโก้ กอนซาเลซ ยิงไกลแฉลบ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ก่อนที่ครึ่งหลัง เยเรมี่ โดกู จะปิดฉากเกมด้วยประตูสุดสวย ปั่นโค้งด้วยเท้าขวาเสียบเสาไกลให้ทีมขยับเป็น 3-0 ในนาทีที่ 65 และได้รับเสียงปรบมือกึกก้องทั่วเอติฮัดเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออก
ลิเวอร์พูลมีจังหวะได้เฮจากลูกโหม่งของฟาน ไดค์ ที่ส่งบอลเข้าประตูไป แต่ VAR ปฏิเสธเพราะแอนดี้ โรเบิร์ตสันอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปขวางการมองเห็นของผู้รักษาประตู จนทำให้ อาร์เน่ สลอต กุนซือหงส์แดง ถึงกับหัวเสียข้างสนาม
แม้ครึ่งหลังทีมเยือนจะพยายามเปิดเกมรุกมากขึ้น โดยไรอัน กราเฟนเบิร์ช และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้โอกาสลุ้นทำประตู แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของซิตี้ที่เหนียวแน่นได้เลย ทำให้ลิเวอร์พูลแพ้เกมเยือนในลีก 4 นัดติดต่อกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012
ฝั่งกวาร์ดิโอล่าซึ่งคุมทีมนัดที่ 1,000 ในอาชีพ ได้รับการเฉลิมฉลองก่อนเกม และตอบแทนแฟนบอลด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของลูกทีม “วันนี้เราครองเกมได้หมด ทั้งจังหวะรุก รับ และการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ทุกคนเล่นได้สมบูรณ์แบบ” นายใหญ่ชาวสเปนกล่าวหลังเกม
ชัยชนะนี้ทำให้แมนฯ ซิตี้เก็บเพิ่มเป็น 30 คะแนน จาก 13 นัด ตามหลังอาร์เซน่อลเพียง 4 แต้ม ส่วนลิเวอร์พูลยังมี 26 คะแนน รั้งอันดับ 4 และถูกตั้งคำถามว่าการลุ้นแชมป์ของพวกเขาอาจสะดุดลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้.